การเดินเพื่อสุขภาพและความฟิตของร่างกายด้วยเสื้อรัดกล้ามเนื้อ
การเดินเพื่อสุขภาพเป็นการออกกำลังกายยอดนิยมที่ดีที่สุดร่วมกับการรับประทานอาหารถูกต้องตามหลักโภชนาการช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรงดีขึ้นร่างกายมีการปรับเปลี่ยนการทำงานจากภาวะไม่ปกติกลับสู่ภาวะปกติอยู่ในสภาวะสมดุลการเดินออกกำลังกายลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจมีสุขภาพดีเป็นระยะเวลายาวนานการเดินเป็นการออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจนหรือ Aerobic เกิดจากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจะมีการใช้พลังงานเป็นจำนวนมากช่วยทำให้ร่างกายสามารถนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจ หลอดเลือด และปอดจะปรับตัวสามารถรับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นโดยไม่ต้องออกแรงมากเหมือนกีฬาชนิดอื่นทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปอดสามารถจับออกซิเจนส่งไปตามกระแสเลือดสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายได้อย่างทั่วถึงเพื่อไปเผาผลาญอาหารที่เรารับประทานได้พลังงานเพิ่มปริมาณการสูบฉีดเลือด ขนาดของกล้ามเนื้อของหัวใจใหญ่ขึ้น แข็งแรงมากขึ้นและมีความยืดหยุ่นตัวดีขึ้นส่วนการออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจนหรือ Anaerobic พลังงานที่ได้เกิดจากการสลายสารอาหารโดยไม่ใช้ออกซิเจนกีฬาที่ต้องใช้แรงและความเร็วมากเช่นวิ่งแข่งด้วยความเร็วสูงสุดระยะสั้นไม่ต่อเนื่องจะมีการใช้พลังงานมากเป็นระยะมากกว่าแบบใช้ออกซิเจนซึ่งร่างกายต้องได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากแต่ร่างกายไม่สามารถรับเอาออกซิเจนเข้ามาได้มากและต่อเนื่องเพียงพอร่างกายเข้าสู่สภาวะขาดออกซิเจนผลทำให้เกิดการสะสมของเสีย Lactic acid เป็นจำนวนมากทำให้ร่างกายเกิดความเจ็บปวด เมื่อยล้า หัวใจเต้นเร็วขึ้น หายใจสั้นลง จึงต้องมีการหยุดพักเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวกลับคืนสู่สภาพปกติการเดินออกกำลังกายเสริมสร้างสุขภาพเกิดประโยชน์ในระยะยาวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อออกกำลังกายเป็นประจำจนติดเป็นนิสัยสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการเดินคือรองเท้าสวมใส่แล้วสบายไม่รัดเท้ามาก ระหว่างเดินออกกำลังกายจะเกิดการเผาผลาญสารอาหารด้วยกลไกลระบายความร้อนออกจากร่างกายอาศัยเหงื่อนำพาเพื่อลดอุณหภูมฺร่างกายควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่แห้งไว ระบายเหงื่อได้ดีสำหรับ เสื้อรัดกล้ามเนื้อ และ กางเกงรัดกล้ามเนื้อ ที่ผลิตจากส่วนผสมเส้นใยผ้า Polyester + Spandex มีคุณสมบัติซับเหงื่อน้อย ผ้าแห้งไว ระบายเหงื่อได้ดี มีส่วนช่วยระบายความร้อนให้ร่างกายนอกจากนี้ผ้ายังมีคุณสมบัติมีความยืดหยุ่นสูงจึงเหมาสำหรับการเดินออกกำลังกาย หรือกีฬาชนิดอื่นทำให้อิสระในการเคลื่อนไหวขณะออกกำลังกาย การออกกำลังกายด้วยการเดินเร็วสลัปเดินปานกลางเพื่อความฟิตของร่างกายสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกเดินให้ได้สัปดาห์ละ 3 – 5 วัน ก่อนเริ่มเดินต้องอบอุ่นร่างกายก่อนเสมอในสัปดาห์แรกระยะเวลาในการเดินให้ได้วันละ 20 นาทีโดยวิธีสลับวันเดินเร็ว วันเดินปานกลางโดยไม่เกิดออาการเหนื่อย ในสัปดาห์ที่ 2 เดินให้ได้วันละ 20 - 30 นาทีโดยวิธีสลับวันเดินเร็ว วันเดินปานกลาง ในสัปดาห์ที่ 3 เดินให้ได้วันละ 30 - 45 นาทีโดยวิธีสลับวันเดินเร็ว วันเดินปานกลาง ในสัปดาห์ที่ 4 เดินให้ได้วันละ 45 นาทีโดยวิธีสลับวันเดินเร็ว วันเดินปานกลาง ด้วยความเร็วในการเดิน 5 – 6 กม.ต่อ ชม.จะเกิดการเผาผลาญไขมันได้ถึง 300 คาลอรี่ จะทำให้ร่างกายผอมลงสุขภาพดีขึ้น
เทคนิคในการเดิน
ลักษณะการเดินขนานแนวศูนย์กลางเส้นตรงระหว่างเท้าทั้งสองข้างโดยก้าวขายาวๆ แกว่งแขนตามธรรมชาติซึ่งจะแกว่งตรงข้ามกับขาที่ก้าวเสมอความเร็วในการแกว่งแขนจะเป็นความเร็วเดียวกับเท้าที่ก้าวเสมอพยายามหายใจ เข้า – ออก ให้ลึกๆ ทางจมูกลงไปถึงช่องท้องจะพองออกขณะหายใจเข้าและช่องท้องจะแฟบขณะหายใจออกเพื่อให้ปอดมีการขยายตัวเต็มที่เพิ่มปริมาตรในการจุอากาศได้มากขึ้นช่วยผ่อนคลายความเครียดจิตใจสงบมากขึ้นหลังจากการเดินทุกครั้งควรต้องผ่อนคลายร่างกายค่อยๆ เดินช้าลงอย่าหยุดเดินทันทีเหมือนอบอุ่นร่างกายช่วงก่อนเริ่มเดินเพื่อให้ร่างกายปรับตัวประมาณ 5 – 10 นาทีก่อนที่จะหยุดเดินจะช่วยป้องกันอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อทำให้การเต้นของหัวใจและความดันโลหิตกลับสู่สภาพปกติลดการคั่งของเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณขาระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้นช่วยลดอาการหน้ามืด มึนงง หลังจากการเดินเสร็จสิ้นลงควรมีการยืดกล้ามเนื้อ เอ็นต่างๆ โดยการบริหารท่ายืดลำตัวประมาณ 5 – 10 นาที
สรุปการเดินเพื่อสุขภาพและความฟิตของร่างกายด้วยเสื้อรัดกล้ามเนื้อ
การเดินเพื่อสุขภาพเป็นการออกกำลังกายยอดนิยมที่ดีที่สุดเป็นการออกกำลังกายแบบใช้ออกซิเจนเกิดจากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจะมีการใช้พลังงานเป็นจำนวนมากร่างกายสามารถนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจ หลอดเลือด และปอดโดยไม่ต้องออกแรงมากเหมือนกีฬาชนิดอื่นส่วนการออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจนพลังงานที่ได้เกิดจากการเผาผลาญสารอาหารกีฬาที่ต้องใช้แรงและความเร็วมากเช่นวิ่งแข่งด้วยความเร็วสูงสุดระยะสั้นไม่ต่อเนื่องจะมีการใช้พลังงานมากเป็นระยะมากกว่าแบบใช้ออกซิเจนซึ่งร่างกายต้องได้รับออกซิเจนในปริมาณที่มากแต่ไม่สามารถรับเอาออกซิเจนเข้ามาได้ต่อเนื่องและเพียงพอร่างกายเข้าสู่สภาวะขาดออกซิเจนผลทำให้เกิดการสะสมของเสีย Lactic acid เป็นจำนวนมากทำให้ร่างกายเกิดความเจ็บปวด เมื่อยล้า หัวใจเต้นเร็วขึ้น หายใจสั้นลง จึงต้องมีการหยุดพักเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวกลับคืนสู่สภาพปกติสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการเดินคือรองเท้าสวมใส่แล้วสบายไม่รัดเท้ามาก ระหว่างเดินออกกำลังกายจะเกิดการเผาผลาญสารอาหารด้วยกลไกลระบายความร้อนออกจากร่างกายอาศัยเหงื่อนำพาเพื่อลดอุณหภูมฺร่างกายควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่แห้งไว ระบายเหงื่อได้ดีสำหรับ เสื้อรัดกล้ามเนื้อ และ กางเกงรัดกล้ามเนื้อ ที่ผลิตจากส่วนผสมเส้นใยผ้า Polyester + Spandex มีคุณสมบัติซับเหงื่อน้อย ผ้าแห้งไว ระบายเหงื่อได้ดีสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกเดินให้ได้สัปดาห์ละ 3 – 5 วัน ก่อนเริ่มเดินต้องอบอุ่นร่างกายในสัปดาห์แรกระยะเวลาในการเดินให้ได้วันละ 20 นาทีโดยวิธีสลับวันเดินเร็ว วันเดินปานกลางโดยไม่เกิดออาการเหนื่อย ในสัปดาห์ที่ 2 เดินให้ได้วันละ 20 - 30 นาที ในสัปดาห์ที่ 3 เดินให้ได้วันละ 30 - 45 นาที ในสัปดาห์ที่ 4 เดินให้ได้วันละ 45 นาที ด้วยความเร็วในการเดินประมาณ 5 – 6 กม.ต่อ ชม.จะเกิดการเผาผลาญไขมันได้ถึง 300 คาลอรี่ ผลทำให้ร่างกายผอมลงสุขภาพดีขึ้น
ติดต่อเรา
WEBSITE
FACEBOOK
FANPAGE
ํYOUTUBE
INSTAGRAM
TWITTER
PINTEREST
GOOGLEPLUS
BLOGGER
OKNATIONBLOG
Email : [email protected]
TEL : 089-2018265
Line ID : @longdusport
สามารถติดต่อทางไลน์คลิกที่รูปไดัครับ
